สมาร์ทโฟนคืออะไร

สมาร์ทโฟนคืออะไร หรือเรียกภาษาไทยว่า สมาร์ทโฟน สมาร์ทโฟน คือ โทรศัพท์มือถือที่มีการทำงานพื้นฐานเหมือนกับโทรศัพท์มือถือทั่วไป เช่น โทรออก รับสาย ส่งข้อความผ่านเครือข่ายโทรศัพท์ อย่างไรก็ตามด้วยการพัฒนาของเทคโนโลยีที่ทำให้โทรศัพท์มือถือมีความพิเศษมากขึ้น ส่งผลให้โทรศัพท์มือถือสามารถใช้อินเทอร์เน็ตผ่านเครือข่าย 3G, 4G และ 5G รวมถึงรองรับอินเทอร์เน็ต Wi-Fi ดังนั้น โทรศัพท์มือถือของคุณสามารถใช้เว็บไซต์ต่างๆ ได้ เช่นเดียวกับที่คุณใช้คอมพิวเตอร์ ดังนั้นจึงกลายเป็นนิรุกติศาสตร์ของคำว่า “สมาร์ทโฟน” และมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องสำหรับสมาร์ทโฟนในปัจจุบัน เปิดให้ใช้งานแอพพลิเคชั่นต่างๆ รวมถึงโซเชียลมีเดียต่างๆ เช่น Facebook, Messenger, Line, Instagram, Twitter เป็นต้น ทำให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งฟังก์ชั่นของสมาร์ทโฟนให้ตรงตามความต้องการได้ สมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ในปัจจุบันที่มีหน้าจอสัมผัสยังมีกล้องความละเอียดสูงที่ด้านหน้าและด้านหลัง อีกทั้งสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ยังมีดีไซน์สวยงามทันสมัย

ระบบปฏิบัติการสมาร์ทโฟน
สมาร์ทโฟนทั้งหมดทำงานตามระบบปฏิบัติการที่ใช้ ระบบปฏิบัติการคือระบบที่ช่วยให้ผู้ใช้สมาร์ทโฟนสามารถเข้าถึงแอพพลิเคชั่นต่างๆ ผู้พัฒนาระบบปฏิบัติการสมาร์ทโฟนที่ได้รับความนิยมในระบบ ได้แก่

– แอนดรอยด์
– ไอโอเอส (iOS)

นอกจากนี้ยังมีระบบปฏิบัติการที่เข้ามามีบทบาทในโลกมือถือ ก่อนหน้านี้มีส่วนแบ่งในตลาดโทรศัพท์มือถือ แต่ตอนนี้ไม่ได้รับความนิยมอีกต่อไปและเลิกผลิตไปแล้ว

– วินโดวส์ โมบาย (Windows Mobile)
– วินโดวส์โฟน (Windows Phone)
– ซิมเบียน
– แบล็คเบอร์รี่ โอเอส (Blackberry OS)

สมาร์ทโฟนคืออะไร เเตกต่างจากโทรศัพท์ธรรมดาอย่างไร

  • สมาร์ทโฟนมีหน้าจอสัมผัสที่คุณสั่งงานด้วยนิ้วได้ โทรศัพท์ของคุณกลายเป็นปุ่มกด
  • หน้าจอสมาร์ทโฟนดีกว่าโทรศัพท์เพราะอุปกรณ์ทั้งหมดเป็นหน้าจอ
  • สมาร์ทโฟนสามารถแสดง VDO คุณภาพสูงได้ แต่ต่างจากโทรศัพท์ตรงที่ส่วนใหญ่จะฟังได้เฉพาะเสียงเท่านั้น
  • สมาร์ทโฟนส่วนใหญ่มีแบตเตอรี่มากขึ้นเนื่องจากเทคโนโลยีขั้นสูง
  • ด้วยเหตุผลเดียวกับข้างต้น สมาร์ทโฟนสามารถชาร์จได้เร็วขึ้น
  • สมาร์ทโฟนสามารถติดตั้งแอพพลิเคชั่นได้ตามต้องการ สิ่งที่คุณไม่สามารถทำได้ทางโทรศัพท์
  • สมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ในปัจจุบันสามารถถ่ายภาพและวิดีโอได้เช่นเดียวกับกล้องถ่ายรูป
  • โปรเซสเซอร์ของสมาร์ทโฟนมีคุณภาพสูง ดังนั้นจึงเร็วกว่าโทรศัพท์
  • สมาร์ทโฟนแพงกว่าโทรศัพท์แน่นอน เนื่องจากเทคโนโลยีที่มีอยู่ในนั้นมีราคา
  • สมาร์ทโฟนสามารถใช้อินเทอร์เน็ต wifi บนมือถือได้

นอกจากสมาร์ทโฟนทุกรุ่นแล้ว แอปพลิเคชันพื้นฐาน เช่น รายชื่อ บันทึกการโทร ฯลฯ สร้างขึ้นในอุปกรณ์ (โทรออก-รับสาย) หรือรับส่งข้อความผ่าน SMS สมาร์ทโฟนยังมีแอพพลิเคชั่นที่ช่วยให้คุณใช้งานได้มากกว่าฟังก์ชั่นพื้นฐานของโทรศัพท์ โดยเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น แผนที่หรือแอปพลิเคชั่นเนวิเกเตอร์ที่ให้คุณนำทางรถยนต์ไปยังจุดหมายได้ ซึ่งเหมาะกับสถานการณ์สังคมปัจจุบันและใช้งานได้หลากหลายมากขึ้น หรือใช้แอปพลิเคชั่นสื่อสาร เช่น โซเชียลมีเดีย เช่น Facebook ไลน์และทวิตเตอร์. นั่นคือ

นอกเหนือจากการใช้เว็บไซต์ผ่านคอมพิวเตอร์ของคุณ สมาร์ทโฟนก็มีวิวัฒนาการเช่นกัน ทำให้สามารถใช้เว็บไซต์ผ่านอินเทอร์เน็ตได้ นอกจากนี้ การเติบโตของบริการเครือข่าย 4G และ 5G ที่กำลังจะเกิดขึ้นจะช่วยให้เข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงได้ในไม่กี่วินาที สมาร์ทโฟนทั่วไปยังรองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi เพื่อท่องอินเทอร์เน็ตผ่านการเชื่อมต่อไร้สายในบ้านหรือที่ทำงานของคุณ หรือในที่สาธารณะ เว็บเบราว์เซอร์ทั่วไปของสมาร์ทโฟน ได้แก่ Google Chrome Opera Firefox

วิวัฒนาการโทรศัพท์มือถือ

โทรศัพท์มือถือ หรือ Cell Phone เป็นอุปกรณ์สื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ที่คล้ายกับโทรศัพท์พื้นฐานแต่ไม่ต้องใช้สายโทรศัพท์ โทรศัพท์มือถือซึ่งสามารถพกพาไปยังสถานที่ต่างๆ ได้ จะใช้คลื่นวิทยุในการสื่อสารกับเครือข่ายโทรศัพท์มือถือผ่านสถานีฐาน โทรศัพท์พื้นฐานและเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ของผู้ให้บริการรายอื่น โทรศัพท์มือถือในปัจจุบัน นอกจากความสามารถในการสื่อสารด้วยเสียงแล้ว ยังรองรับการสื่อสารด้วยข้อความ เช่น SMS, การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต, การสื่อสารมัลติมีเดีย เช่น MMS, นาฬิกา, นาฬิกาปลุก, คุณสมบัติที่รองรับแอปพลิเคชัน Java เช่น นาฬิกาจับเวลา, ปฏิทิน, รายการสิ่งที่ต้องทำ, สเปรดชีต, โปรแกรมประมวลผลคำและเกม โทรศัพท์มือถือเครื่องแรกถูกสร้างและจัดแสดงในปี 1973 โดย Martin Cooper ผู้ประดิษฐ์ Motorola เป็นโทรศัพท์มือถือขนาดใหญ่น้ำหนักประมาณ 1.1 กก. 4.6 พันล้าน เพิ่มขึ้นจาก 12.4 ล้านในปี 2543

  1. ยุค 1G ที่เริ่มจากรุ่นแรก (First Generation) ระบบนี้ยังเป็นระบบอนาล็อก (Analog) ความถี่แบ่งเป็นช่องสัญญาณเล็กๆ ทุกวันนี้ใช้ได้เฉพาะในส่วนของเสียงเท่านั้น แต่ในยุคนี้ผู้ใช้ยังไม่ต้องใช้บริการอื่น
  2. บริการมากกว่ายุค 2G (ยุคที่ 2) เนื่องจากความต้องการและความหลากหลายของผู้ใช้ ส่งผลให้การส่งคลื่นวิทยุจากแอนะล็อกเป็นดิจิทัลมีการพัฒนา ทำให้สามารถใช้ข้อมูลนอกเหนือจากบริการเสียงได้ ทำให้ยุคนี้เป็นยุคที่โทรศัพท์มือถือเฟื่องฟู ต้องขอบคุณบริการข้อมูลทำให้เกิดบริการอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น ดาวน์โหลดริงโทน วอลเปเปอร์ กราฟิกต่างๆ ตามมาอีกมาก แต่บริการในยุคนี้ยังมีข้อจำกัดในเรื่องของความเร็วในการส่งข้อมูลที่ช้า
  3. ยุค 2.5G (ยุคที่ 2.5) หลังจากนั้นเป็นยุคระหว่าง 2G และ 3G และ 2.5G ได้นำ GPRS (General Packet Radio Service) มาใช้เพื่อเพิ่มความเร็วในการรับส่งข้อมูล ในช่วงยุค 2G เทคโนโลยี GPRS มีความเร็วสูงสุด 115 kbps , แต่ความเร็ว GPRS ในทางปฏิบัติจำกัดไว้ที่ประมาณ 40 kbps. นอกจากนี้ การส่งข้อความยังพัฒนาจาก SMS เป็น MMS และโทรศัพท์มือถือก็เริ่มเปลี่ยนจากหน้าจอขาวดำเป็นหน้าจอสี เปลี่ยนจากเสียงเรียกเข้าโมโนโทนเดิมเป็นเสียงเรียกเข้าแบบโพลีโฟนิกที่มีโทนเสียงที่หลากหลาย
  4. ยุค 2.75G เป็นความต่อเนื่องของ GPRS แต่มีการพัฒนาความเร็วในการส่งข้อมูลที่เร็วขึ้น EDGE (Enhanced Data Rate for Global Evolution) เป็นเทคโนโลยีที่สามารถเพิ่มความเร็วในการส่งข้อมูล ซึ่งเร็วกว่า GPRS ประมาณ 3 เท่า และมีความเร็วสูงสุดประมาณ 384 kbps แต่ความเร็วจริงอยู่ที่ประมาณ 80-100 กิโลบิตต่อวินาที
  5. 3G Era (3rd Generation) เทคโนโลยีสื่อสารยุคที่ 3 เป็นเทคโนโลยีที่รวมการรับส่งข้อมูล เมื่อรวมกับเทคโนโลยีในปัจจุบัน 3G ยังสามารถให้บริการมัลติมีเดียได้อย่างสมบูรณ์รวมถึงการส่งข้อมูลผ่านระบบไร้สาย (Wireless) ด้วยความเร็วที่เร็วกว่ายุค 2.75G แอปพลิเคชันที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น การรับส่งข้อมูล (แอปพลิเคชัน) และบริการเสียงที่เหนือกว่า เช่น การถ่ายโอนไฟล์ขนาดใหญ่ การใช้บริการวิดีโอ/การประชุม ดาวน์โหลดเพลง ดูหนังสั้น ดูทีวีสตรีมมิ่ง เป็นต้น สมาร์ทโฟนคืออะไร

บทความที่น่าสนใจ